วิธีดูแลกระเป๋าหนัง

5 แนวทางการดูแลกระเป๋าแบรนด์เนมที่ดี

Lifestyle

เคยประสบพบเจอกับปัญหาเรื่องของ “ของขำรุดเสียหาย” กันบ้างมั้ยหล่ะครับ การจะซื้อใหม่ก็คงจะเป็นเรื่องยากและเสียเงินเยอะเลยหล่ะครับ จะดีกว่ามั้ย ถ้าเราสามารถซ่อมหรือดูแลได้ ซึ่งกระเป๋าต้องการการดูแลซ่อมแซมเช่นกัน วันนี้เราจึงอยากพาทุกๆ ท่านไปพบกับ “5 แนวทางการดูแลกระเป๋าแบรนด์เนมที่ดี” กันสักหน่อยครับ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น…เราไปชมกันเล้ยย!!

ทำความรู้จักกับ “หนัง” ประเภทต่างๆ ที่มักจะนำมาทำกระเป๋า

หนังที่ใช้ในการผลิตกระเป๋า สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ หนังแท้ และ หนังเทียม

●หนังแท้ หมายถึง หนังจากสัตว์ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์เลื้อยคลาน หรือสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ โดยหนังแท้นิยมแบ่งได้เป็น 3 ประเภท

1.หนังวัวหรือควาย (Cattle Leather) เป็นหนังสัตว์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากคุณสมบัติที่มีความนุ่ม ความสวยงาม สามารถนำมาพัฒนาต่อเป็นหนังได้หลากหลายประเภท ได้แก่ Full Grain Leather, Top Grain Leather, Split Grain Leather, Nubuck Leather หรือ Suede Leather เป็นต้น

2.หนังแกะ หนังแพะ และหนังหมู (Sheep Goat and Pig Leather) เป็นหนังสัตว์ที่ได้รับความนิยมรองลงมาจาก หนังวัวหรือหนังควาย เนื่องจากมนุษย์นิยมนำสัตว์เหล่านี้มาทำอาหาร ทำให้หนังของมันจึงเป็นวัสดุที่เกิดขึ้นในกระบวนการ

3.หนังสัตว์อื่นๆ (Exotic Leather) เช่น ช้าง ปลา กวาง นกกระจอกเทศ กระต่าย จระเข้ งู กิ้งก่า หมี สุนัขจิ้งจอก จิงโจ้ เป็นต้น หนังสัตว์อื่นๆ มักถูกต่อต้านจากกลุ่มอนุรักษ์สัตว์มาโดยตลอด เนื่องจากหนังสัตว์เหล่านี้มักได้มาจากการล่าสัตว์ที่ผิดกฎหมาย ต่างจากหนังวัวที่มีการทำปศุสัตว์ที่ชัดเจน และสามารถเอาทุกส่วนมาใช้ประโยชน์ได้

●หนังเทียม หรือ หนังสังเคราะห์ (Synthetic Leather) คือ หนังทุกชนิดที่วัสดุส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากขั้นตอนธรรมชาติ โดยปัจจุบันหนังสังเคราะห์ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีลักษณะและคุณสมบัติคล้ายคลึงหนังแท้มาก โดยหนังสังเคราะห์ที่นิยมใช้ มี 3 ประเภท ได้แก่

1.หนังพียู (Polyurethane Leather) คือ หนังสังเคราะห์ที่ใช้พลาสติกประเภทโพลียูรีเทนในการเคลือบพื้นผิวบนหนังชั้นสปลิต (Split Leather) อีกทีหนึ่ง เพื่อเลียนแบบพื้นผิวให้เหมือนหนังธรรมชาติ โดยปัจจุบันมีใช้ผ้าถัก ผ้าทอ และผ้าชนิดต่างๆ แทนการใช้หนังสปลิตเพื่อลดการใช้หนังธรรมชาติ และลดต้นทุนการผลิต

2.หนังพีวีซี (Polyvinyl Chloride Leather หรือ Vinyl Leather) คือ หนังสังเคราะห์จากสารแคมีชนิดต่างๆ ได้แก่ พีวีซีเรซิน พลาสติไซเซอร์ และสารเติมแต่งชนิดต่างๆ โดยหนังพีวีซีจะไม่ใช้ส่วนประกอบหนังธรรมชาติเลย แต่จะใช้สารสังเคราะห์หลายชนิดที่ทำให้พลาสติกพีวีซีอ่อนตัว มีผิวสัมผัสเหมือนหนังธรรมชาติ

5 วิธีดูแลกระเป๋าหนัง

●ระวังของมีคมทุกชนิด อันนี้มีหลายคนพลาดมาเยอะแล้ว อุตสาห์ออมเงินซื้อกระเป๋ามาตั้งนาน สุดท้ายมาพลาดโดนมีดหรือปลายกรรไกรข่วนทำให้เป็นรอย ซึ่งหากโดนเป็นลอยลึก ๆ อันนี้จะทำให้มีตำหนิที่ไม่น่ามองเลยทีเดียว

●ระวังอย่าให้มือเลอะตอนถือกระเป๋า ข้อนี้เหมือนจะทำยาก แต่ความจริงแล้วไม่ต้องไปกังวลมากมายขนาดนั้น ความหมายของคำว่าเลอะของเราคือ ให้ระวังตอนมือของคุณมีของเหลวชนิดต่าง ๆ ที่อาจจะทำให้กระเป๋าของคุณเลอะและสกปรกได้

●ระวังอย่าให้หนังแท้เปียกน้ำ หนังแท้แม้ว่าจะกันน้ำได้ส่วนหนึ่ง เนื่องจากใช้สารเคมีเคลือบบนชั้นของหนังไว้ ซึ่งสารเคมีพวกนี้จะถูกเคลือบมาจากโรงงานฟอกหนังเลย แต่ก็ไม่ใช่ว่าหนังแท้ทุกชนิดจะมีการเคลือบนะ  หนังบางชนิดจะไม่นิยมเคลือบสารกันน้ำพวกนี้

●พยายามจัดเก็บกระเป๋าหนังไว้ในทีที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกและไม่ร้อนเกินไป เพื่อป้องการเสื่อมสภาพของกระเป๋านั้นเองครับ บางครั้งก็ต้องเก็บกระเป๋าแบรนด์เนมดังๆ ไว้ในห้องปรับอากาศอีกด้วยครับ

ดูแลกระเป๋าหนังด้วยการทำสปากระเป๋า ซึ่งการทำสปากระเป๋าจะเป็นการนำกระเป๋าให้กับผู้เชี่ยวชาญได้ทำการทำความสะอาดและฟื้นฟูกระเป๋าหนังด้วยน้ำยาหรือเทคโนโลยีที่ดี จะทำให้กระเป๋ามีอายุการใช้งานที่นานขึ้นครับ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลเกี่ยวกับ “5 แนวทางการดูแลกระเป๋าแบรนด์เนมที่ดี” ที่น่าสนใจที่ได้นำมาฝากกันในวันนี้ เราหวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยกันนะครับ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *